วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

2.มีทฤษฏีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และแต่ละทฤษฏีเป็นอย่างไร


(http://kitforever.web.officelive.com/constructivism.aspx) ได้กล่าวไว้ว่า ในปัจจุบันมีทฤษฏีการเรียนรู้ต่างๆมากมายซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีดังนี้

Bloom ( Bloom's Taxonomy)

Bloom ได้แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ

• ความรู้ที่เกิดจากความจำ (knowledge) ซึ่งเป็นระดับล่างสุด

• ความเข้าใจ (Comprehend)

• การประยุกต์ (Application)

• การวิเคราะห์ ( Analysis) สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้

• การสังเคราะห์ ( Synthesis) สามารถนำส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้ให้แตกต่างจากรูปเดิม เน้นโครงสร้างใหม่

• การประเมินค่า ( Evaluation) วัดได้ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและเกณฑ์ที่แน่ชัด

(http://www.st.ac.th/av/learn_theo.htm) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของเมเยอร์ (Mayor)

ในการออกแบบสื่อการเรียนการสอน การวิเคราะห์ความจำเป็นเป็นสิ่งสำคัญ และตามด้วยจุดประสงค์ของการเรียน โดยแบ่งออกเป็นย่อยๆ 3 ส่วนด้วยกัน

• พฤติกรรม ควรชี้ชัดและสังเกตได้

• เงื่อนไข พฤติกรรมสำเร็จได้ควรมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ

• มาตรฐาน พฤติกรรมที่ได้นั้นสามารถอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

( http://gotoknow.org/blog/yardaroonchat/200976) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์ (Bruner)

• ความรู้ถูกสร้างหรือหล่อหลอมโดยประสบการณ์

• ผู้เรียนมีบทบาทรับผิดชอบในการเรียน

• ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความหมายขึ้นมาจากแง่มุมต่างๆ

• ผู้เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง

• ผู้เรียนเลือกเนื้อหาและกิจกรรมเอง

• เนื้อหาควรถูกสร้างในภาพรวม

(http://tupadu.multiply.com/journal/item/4 ) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์ (Tylor)

• ความต่อเนื่อง (continuity) หมายถึง ในวิชาทักษะ ต้องเปิดโอกาสให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อยๆ และต่อเนื่องกัน

• การจัดช่วงลำดับ (sequence) หมายถึง หรือการจัดสิ่งที่มีความง่าย ไปสู่สิ่งที่มีความยาก ดังนั้นการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ ให้มีการเรียงลำดับก่อนหลัง เพื่อให้ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

• บูรณาการ (integration) หมายถึง การจัดประสบการณ์จึงควรเป็นในลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียน ได้เพิ่มพูนความคิดเห็นและได้แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน เนื้อหาที่เรียนเป็นการเพิ่มความสามารถทั้งหมด ของผู้เรียนที่จะได้ใช้ประสบการณ์ได้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน ประสบการณ์การเรียนรู้ จึงเป็นแบบแผนของปฏิสัมพันธ์ (interaction) ระหว่างผู้เรียนกับสถานการณ์ที่แวดล้อม

(http://learners.in.th/blog/subhapit/84401) ทฤษฎีการเรียนรู้ 8 ขั้น ของกาเย่ (Gagne)

• การจูงใจ ( Motivation Phase) การคาดหวังของผู้เรียนเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้

• การรับรู้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (Apprehending Phase) ผู้เรียนจะรับรู้สิ่งที่สอดคล้องกับความตั้งใจ

• การปรุงแต่งสิ่งที่รับรู้ไว้เป็นความจำ ( Acquisition Phase) เพื่อให้เกิดความจำระยะสั้นและระยะยาว

• ความสามารถในการจำ (Retention Phase)

• ความสามารถในการระลึกถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว (Recall Phase )

• การนำไปประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เรียนรู้ไปแล้ว (Generalization Phase)

• การแสดงออกพฤติกรรมที่เรียนรู้ ( Performance Phase)

• การแสดงผลการเรียนรู้กลับไปยังผู้เรียน ( Feedback Phase) ผู้เรียนได้รับทราบผลเร็วจะทำให้มีผลดีและประสิทธิภาพสูง



สรุป

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในทฤษฏีการเรียนรู้แต่ละทฤษฏีนั้นมุ่งเน้นเหมือนกันทุกทฤษฏีคือ การให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากวิธีต่างๆ เช่น แรงจูงใจ การสังเกต เป็นต้น

บรรณานุกรม

http://gotoknow.org/blog/yardaroonchat/200976

http://kitforever.web.officelive.com/constructivism.aspx

http://www.st.ac.th/av/learn_theo.htm

http://tupadu.multiply.com/journal/item/4

http://learners.in.th/blog/subhapit/84401

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น