2.มีทฤษฏีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับการเรียนรู้และแต่ละทฤษฏีเป็นอย่างไร
(http://kitforever.web.officelive.com/constructivism.aspx) ได้กล่าวไว้ว่า ในปัจจุบันมีทฤษฏีการเรียนรู้ต่างๆมากมายซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของมนุษย์ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีดังนี้
Bloom ( Bloom's Taxonomy)
Bloom ได้แบ่งการเรียนรู้เป็น 6 ระดับ
• ความรู้ที่เกิดจากความจำ (knowledge) ซึ่งเป็นระดับล่างสุด
• ความเข้าใจ (Comprehend)
• การประยุกต์ (Application)
• การวิเคราะห์ ( Analysis) สามารถแก้ปัญหา ตรวจสอบได้
• การสังเคราะห์ ( Synthesis) สามารถนำส่วนต่างๆ มาประกอบเป็นรูปแบบใหม่ได้ให้แตกต่างจากรูปเดิม เน้นโครงสร้างใหม่
• การประเมินค่า ( Evaluation) วัดได้ และตัดสินได้ว่าอะไรถูกหรือผิด ประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและเกณฑ์ที่แน่ชัด
(http://www.st.ac.th/av/learn_theo.htm) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของเมเยอร์ (Mayor)
ในการออกแบบสื่อการเรียนการสอน การวิเคราะห์ความจำเป็นเป็นสิ่งสำคัญ และตามด้วยจุดประสงค์ของการเรียน โดยแบ่งออกเป็นย่อยๆ 3 ส่วนด้วยกัน
• พฤติกรรม ควรชี้ชัดและสังเกตได้
• เงื่อนไข พฤติกรรมสำเร็จได้ควรมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ
• มาตรฐาน พฤติกรรมที่ได้นั้นสามารถอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
( http://gotoknow.org/blog/yardaroonchat/200976) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์ (Bruner)
• ความรู้ถูกสร้างหรือหล่อหลอมโดยประสบการณ์
• ผู้เรียนมีบทบาทรับผิดชอบในการเรียน
• ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความหมายขึ้นมาจากแง่มุมต่างๆ
• ผู้เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
• ผู้เรียนเลือกเนื้อหาและกิจกรรมเอง
• เนื้อหาควรถูกสร้างในภาพรวม
(http://tupadu.multiply.com/journal/item/4 ) การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์ (Tylor)
• ความต่อเนื่อง (continuity) หมายถึง ในวิชาทักษะ ต้องเปิดโอกาสให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อยๆ และต่อเนื่องกัน
• การจัดช่วงลำดับ (sequence) หมายถึง หรือการจัดสิ่งที่มีความง่าย ไปสู่สิ่งที่มีความยาก ดังนั้นการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ ให้มีการเรียงลำดับก่อนหลัง เพื่อให้ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
• บูรณาการ (integration) หมายถึง การจัดประสบการณ์จึงควรเป็นในลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียน ได้เพิ่มพูนความคิดเห็นและได้แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกัน เนื้อหาที่เรียนเป็นการเพิ่มความสามารถทั้งหมด ของผู้เรียนที่จะได้ใช้ประสบการณ์ได้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน ประสบการณ์การเรียนรู้ จึงเป็นแบบแผนของปฏิสัมพันธ์ (interaction) ระหว่างผู้เรียนกับสถานการณ์ที่แวดล้อม
(http://learners.in.th/blog/subhapit/84401) ทฤษฎีการเรียนรู้ 8 ขั้น ของกาเย่ (Gagne)
• การจูงใจ ( Motivation Phase) การคาดหวังของผู้เรียนเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้
• การรับรู้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (Apprehending Phase) ผู้เรียนจะรับรู้สิ่งที่สอดคล้องกับความตั้งใจ
• การปรุงแต่งสิ่งที่รับรู้ไว้เป็นความจำ ( Acquisition Phase) เพื่อให้เกิดความจำระยะสั้นและระยะยาว
• ความสามารถในการจำ (Retention Phase)
• ความสามารถในการระลึกถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปแล้ว (Recall Phase )
• การนำไปประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เรียนรู้ไปแล้ว (Generalization Phase)
• การแสดงออกพฤติกรรมที่เรียนรู้ ( Performance Phase)
• การแสดงผลการเรียนรู้กลับไปยังผู้เรียน ( Feedback Phase) ผู้เรียนได้รับทราบผลเร็วจะทำให้มีผลดีและประสิทธิภาพสูง
สรุป
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในทฤษฏีการเรียนรู้แต่ละทฤษฏีนั้นมุ่งเน้นเหมือนกันทุกทฤษฏีคือ การให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากวิธีต่างๆ เช่น แรงจูงใจ การสังเกต เป็นต้น
บรรณานุกรม
http://gotoknow.org/blog/yardaroonchat/200976
http://kitforever.web.officelive.com/constructivism.aspx
http://www.st.ac.th/av/learn_theo.htm
http://tupadu.multiply.com/journal/item/4
http://learners.in.th/blog/subhapit/84401
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น